วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556

แปลเพลง Sweeter Than Fiction - Taylor Swift

เพลงนี้ขอบอกว่าตื่นเต้นมากที่จะได้แปล เพราะคิดไว้ตั้งแต่รู้ว่าจะมีเพลงนี้แล้ว ว่าจะต้องแปลให้ได้ และมันก็เป็นจริง เพลงนี้ง่ายม๊วกกกกก
(คำอธิบายศัพท์ด้านล่างนะครับ)




Hit the ground, hit the ground, hit the ground (oh, oh)
เริ่มสิ เริ่มต้นสิ เริ่มที่จะทำสิ
Only sound, only sound that you hear is “no”
เสียงเดียว เพียงเสียงเดียว เสียงเพียงหนึ่งเดียวที่เธอได้ยินคือคำว่า "ไม่"
You never saw it coming
เธอไม่มีวันได้เห็นมันเดินทางมาหา  
Except when you started running
เว้นแต่เมื่อเธอเริ่มจะวิ่งไล่ตามมันเสียเอง
And now you come undone (I, I, I)
และตอนนี้เธอก็กลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว
 
Seen you fall, seen you crawl on your knees (eh, eh)
เห็นเธอผิดหวัง ดูเธอล้มลุกคลุกคลานอยู่บนเข่าของเธอเองอย่างนั้น
Seen you lost in a crowd, seen you colors fade
เห็นเธอหายไปท่ามกลางฝูงชน มองเธอสีหน้าซีดเซียว
Wish I could make it better
หวังว่าฉันจะทำให้มันดีขึ้นได้
Someday you won’t remember,
สักวันหนึ่ง เธอจะลืมมันลง
This pain you thought would last forever and ever
ความเจ็บนี้ที่เธอคิดว่ามันจะอยู่ตลอดๆ
 
[Chorus]
There you stand, ten feet tall
และแล้วเธอก็ยืนขึ้นได้ ด้วยความสำเร็จอย่างสง่างาม
I will say, “I knew it all along
ฉันจะขอพูดเลยนะว่า "ฉันรู้ว่านั่นมันดีไปหมดอย่แล้วน่า"
Your eyes are wider than distance
สายตาของเธอกว้างขวางยิ่งกว่าระยะห่างใดๆ
This life is sweeter than fiction
ชีวิตนี้ ช่างหวานฉ่ำยิ่งกว่านิยาย
 
Just a shot, just a shot in the dark (oh, oh)
เพียงวูบเดียว แวบเดียวเท่านั้นในความมืดมิด
All you got, all you got are your shattered hopes
ทั้งหมดที่เธอมี ทั้งหมดที่เธอได้มาคือความหวังที่แตกเป็นเสี่ยงๆ
They never saw it coming
พวกเขาไม่มีทางได้เห็นมันเดินทางมาหา
You hit the ground running
เธอจงพยายามทำให้ดีที่สุด
And now you’re onto something
และตอนนี้เธอก็ได้พบกับความจริงบางอย่าง
I, I, I say
ฉันบอกว่า
 
What a sight, what a sight when the light came on
สายตาพวกนี้มันอะไรกัน เมื่อยามที่แสงไฟส่องลงมา
Put me right, threw me right when you put them front
ทำให้ฉันรู้สึกดี และเจ๋งเป้งยามเมื่อเธอพาตัวเองมันอยู่ต่อหน้าพวกเขา
And in this perfect weather
และในบรรยากาศดีๆอย่างนี้
It’s like we don’t remember
มันเหมือนกับว่าเราจะไม่จำมัน
The rain we thought would last forever and ever
เหล่าฝนพรำที่เราคิดมันจะอยู่ตลอดไป
 
[Chorus]
There you stand, ten feet tall
และแล้วเธอก็ลุกขึ้นได้ ด้วยความสำเร็จอันสง่างาม
I will say, “I knew it all along”
ฉันจะบอกว่า "ฉันรู้อยู่แล้วล่ะ ว่ามันก็ถูกต้องทั้งหมด"
Your eyes are wider than distance
ดวงตาทั้งสองข้างของเธอ มองได้กว้างไกลยิ่งกว่าระยะห่างใดๆ
This life is sweeter than fiction
ชีวิตนี้ ช่างหวานหมูยิ่งกว่าเรื่องโกหกเสียอีก
There you stand, next to me
และแล้วเธอก็ได้มายืนอยู่ ข้างกายฉัน  
All at once, the rest is history
ทันใดนั้น ส่วนที่เหลือจะกลายเป็นประวัติศาสตร์
Your eyes are wider than distance
สายตาของเธอ กว้างไกลยิ่งกว่าระยะห่างใดๆ
This life is sweeter than fiction, fiction
ชีวิตนี้ หวานหมูยิ่งกว่านิยายเสียอีก
 
[Bridge]
I’ll be one of the many saying
ฉันจะเป็นหนึ่งในเหล่าคนมากมายที่กล่าวออกมา
Look at you now, look at you now, now
ว่ามองไปที่เธอสิ มองไปที่เธอสิ ตอนนี้เลยนะ
I’ll be one of the many saying
ฉันจะเป็นหนึ่งในเหล่าคนมากมายที่เอ่ยขึ้น
You’re made us proud, you’re made us proud
เธอทำให้พวกเราภูมิใจ เธอทำให้เราภูมิใจได้นะ
I’ll be one of the many saying
Look at you now, look at you now, now
I’ll be one of the many saying
You’re made us proud, you’re made us proud, proud

 
And when they call your name
และเมื่อยามที่พวกเขาเอ่ยขานชื่อเธอ
And they put your picture in a frame
และเมื่อพวกเขาใส่ภาพของเธอไว้ในกรอบรูป
You know that I’ll be there time and again
เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันนั้นจะไปที่นั่นอีกครั้งหนึ่ง
‘Cause I you loved when
เพราะฉันรักเธอ เมื่อเธอ...
 
When you hit the ground, hit the ground, hit the ground, oh oh
เมื่อเธอตั้งใจที่จะทำอะไรสักอย่างให้ประสบผลสำเร็จ
Only sound, only sound that you hear is “no”
เสียงเดียว เพียงเสียงเดียว เสียงเพียงหนึ่งเดียวที่เธอได้ยินคือคำว่าไม่
Now in this perfect weather
ตอนนี้มันเป็นช่วงที่อากาศดีมากเลยนะ
It’s like we don’t remember
มันเหมือนกับว่าเราจะจำมันไม่ได้
The rain we thought would last forever and ever
สายฝนที่เราคิดว่ามันจะอยู่เป็นสิ่งสุดท้าย
 
[Chorus]
There you stand, ten feet tall
และเธอก็ยืนขึ้นได้ ด้วยความสำเร็จนั้น
I will say, “I knew it all along”
ฉันจะพูดว่า "ฉันรู้อยู่แล้วน่า ว่านั่นมันถูกไปหมดอยู่แล้ว"
Your eyes are wider than distance
สายตาของเธอ กว้างไกลยิ่งกว่าระยะห่างใดๆ
This life is sweeter than fiction
ชีวิตนี้ หวานหมูยิ่งกว่าเรื่องแต่งเสียอีก
There you stand, next to me
และเธอก็ยืนอยู่ ข้างกายฉัน
All at once, the rest is history
ในตอนนั้น ส่วนที่เหลือมันจะกลายเป็นเรื่องเก่าๆ
Your eyes are wider than distance
สายตาของเธอ กว้างไกลยิ่งกว่าระยะห่างใด
This life is sweeter than fiction, fiction
ชีวิตนี้ หวานเสียยิ่งกว่านิยาย
คำอธิบายศัพท์ เยอะหน่อยนะ


Hit the ground = มาจากคำว่า "Hit the ground running" ครับ แปลว่า การตั้งใจทำอะไรบางอย่างให้ประสบผลสำเร็จ
 
 Except = ยกเว้น


come undone = กลายเป็นบ้า

fall = ที่จริงแล้วแปลว่าตก  แต่ว่ามันสามารถแปลว่า "หกล้ม" หรือว่า "ผิดหวัง" ได้เหมือนกันนะ ประมาณว่าทำอะไรไม่สำเร็จจนตกจากเป้าหมาย


crawl = คลาน


ten feet tall = เป็นศัพท์ของพวกนักธุรกิจครับ แปลว่า ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม



it all along = คำว่า along แปลว่า พร้อม หรือ ตามๆกัน แต่ว่าคำนี้แปลว่า มันสมควรต่อกันทั้งหมด

 
distance = ที่จริงมีนมีอีกคำหนึ่งที่คล้ายๆกันนะครับ คือ "Distant" ที่แปลว่า ไกล แต่ทว่า distance คำนี้แปลว่า ระยะห่าง ครับ


fiction = เรื่องโกหก เรื่องที่แต่งขึ้น หรือว่านิยาย 

 
Just a shot = แปลว่า ชั่วขณะเดียว


shattered = แตกเป็นเสี่ยงไปแล้ว


sight = สายตา

 
 All at once = ทันทีทันใด


 proud = ภูมิใจ 


onto something = การได้พบเจอกับความจริงบางอย่าง


แปลผิดตรงไหนก็ขออภัยและช่วยเตือนด้วยนะครับ ขอบคุณมาก 

 

 

เนื้อเพลง http://sz4m.com/b3819304

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น